• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

5 ทางออกนิสัยขี้โมโหให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็นขึ้น

Started by Naprapats, March 17, 2023, 04:57:31 PM

Previous topic - Next topic

Naprapats


5 วิธีแก้นิสัยคนขีโกรธให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. หยุดคำพูดและการกระทำในยามที่โกรธคือถ้าเกิดมีความคิดว่า อารมณ์กำลังพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความคิดใดๆคำพูดอะไรก็แล้วแต่พฤติกรรมอะไรก็ตามหากมีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจสาแก่ใจชั่วขณะหนึ่ง แม้กระนั้นสุดท้ายจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กพื้นฐานที่จะต้องทำให้ได้คือ...พวกเราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน

2. พินิจโท ษของความโก รธแล้วก็ประโยชน์ซึ่งมาจากความเมตตากรุณาคือให้ย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้

ว่าเราเสียอะไรไปบ้างเนื่องจากความโก รธทำใครเสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเยอะแค่ไหน

ทำลายความเชื่อมโยงไปอย่างไรสิ่งกลุ่มนี้ให้น้อมมาคิดเป็นประจำคิดซ้ำให้มากมายๆ


พิจารณาจนปัญญาสารภาพ หมดคำกล่าวอ้างอย ากแก้ไขตัวเองอย่างเต็มใจ


เพราะเชื่อมั่นแล้วว่า ความโกรธเคืองไม่ใช่ของดีแต่ว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขรวมทั้งความเจริญ

ทั้งของเรา ผู้ที่พวกเรารัก แล้วก็ผู้ที่รักเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของมนุษย์เราไม่ชอบให้คนไหนมาสั่งตราบที่พวกเรายังไม่ต กผลึ กยอมจำนนด้วยตัวเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจำต้องเปลี่ยนตัวเองคนใดจะกล่าวคนไหนกันแน่จะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยนแปลง

เช่นนี้แล้ว เราก็เลยจำต้องปฏิบัติตัวเป็นครูของตนเพื่ออบรมตนเองให้เห็นพิ ษภั ยของความโก รธชิงชังอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสำราญนิดๆหน่อยๆให้คนอื่นๆจนถึงเป็นนิสัยเป็นให้รู้จักยกย่อง ให้กำลังใจผู้คนบ่อยๆ

เมื่อทำให้เขาเป็นสุขแล้วให้พวกเรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้จิตใจเราจับใจ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่ตลอดเราบางทีอาจจะทดลองเปรียบเทียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีมากกว่ากันถ้าเกิดใจพวกเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆเหนื่อยหน่ายความโมโหเกลียดชิ งชั งไปทีละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลปรปักษ์หากความขุ่นเคืองเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตากรุณา

พวกเราบางทีอาจขับไสความมืดดำมิได้แม้กระนั้นหากพวกเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดมนจะหายไปรวมทั้งความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงกันข้ามมาจัดการกิเล สให้บางเบา


4. ฝึกหัดดูความรู้สึกด้วยความบริสุทธิ์ใจที่เป็นกลางในข้อนี้เป็นธรรมะชั้นลึก เป็นการก้าวหน้าสติ


เป็นเราฝึกฝนมองอารมณ์ต่างๆของพวกเราด้วยใจที่เป็นกลางราวกับความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่พวกเรา

ดีใจก็ไม่เข้าไป เสียใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชมก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกหัดให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดพวกนี้

ถ้าหัวใจพวกเราเข้าไปยึดสุดท้ายก็ไม่ดีทั้งนั้นเนื่องจากยึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเสมือนในกำเหรียญไว้ในมือ

ก็จะได้อีกทั้งหัวทั้งก้อยมาในคราเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้ถ้าฝึกหัดเสมอๆนอกจากความโกรธเคืองแล้วยังช่วยกำจัดตัดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งปวง

ยกตัวอย่างเช่นความเศร้าหมองความเหงาความเบื่อหน่ายต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อด้อยจุดแข็ งของตัวเองคือให้รู้จักพิจารณาตนเองแม้พวกเราโก รธใครเสมอๆ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางเวลา กับคนบางคนให้สังเกตดูเหอะว่า พวกเราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ จนถึงแปลงเป็นความเคยชินเพียงมองเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

จิตใจก็วูบๆไหวๆความรำคาญก็เริ่มเข้ามาตรงนี้ควรจะเลี่ยงการเผชิญหน้าทั้งนี้ในเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

ดังเช่นว่าเป็นคนภายในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นนายจ้าง ลูกน้อง เพื่อนฝูง แบบงี้ก็ให้ยกเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกฝนจิตใจของพวกเรา ฝึกหัดอภั ยดีมากยิ่งกว่าปล่อยใจของเราให้ต กต่ำไป

เพราะมัวแต่วิวาทกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เรารับทราบไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว

ถ้าไม่ลงรอยกันแต่ว่ามีความสำคัญจำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักมีสาเหตุมาจากมีบุญก ร ร ม

สัมพันธ์ด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างนี้ยิ่งจำเป็นต้องรู้จักระวัง ยับยั้ง สำรวม

อย่าไปก่อเวรก่อกรรมให้กันและกันเพิ่มขึ้นการเป็นคนโมโหง่าย ไม่มีอะไรดีมีแต่ว่าเสียคุณประโยชน์ เสียทั้งสุขภาพที่เกิดขึ้นกับร่างกายดวงใจ

ทำลายความสัมพันธ์ ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนกลายเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่นๆ

รวมทั้งตัวเองก็ใส่ความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกฝนแรกๆจะทำได้ย ากแต่ขอให้อดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรมีแรงใจ และวินัยฝึกแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตนเองท้ายที่สุดแล้วเราควรจะมีความรู้ความเข้าใจว่า

การลดพยายามอัตตาของตัวเองลดความโมโหชังของตนเองเราไม่ได้ทำเพื่อคนไหนแม้กระนั้นพวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตน

เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย แม้กระนั้นหากทำได้วันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นเราจะยินดี และรู้สึกขอบคุณมากตนเองรู้สึกภูมิใจว่า พวกเราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและก็สิ่งนี้เป็นการมอบความรักและความปรานีให้ตนเองอย่างแท้จริง...

ใจเย็นขึ้น
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/