1.พิมพ์แคตตาล็อก

[Joe524]

พิมพ์แคตตาล็อก
สิ่งพิมพ์แคตตาล็อกตามที่เป็นจริงแล้วตามความหมายที่ถูก เป็นงานเอกสารที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
จะต้องมีบทนำ สารบาญ เนื้อหาโดยไม่มีความแตกต่างจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แต่ว่าถ้าว่าในปัจจุบันงานพิมพ์แคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนความหมายไปเป็นการตามลักษณะของการใช้งาน ซึ่งความหมายแปลงเป็นงานพิมพ์ที่แสดงเนื้อหา
ของผลิตภัณฑ์โดยจะมีรูปภาพประกอบรวมทั้งอาจจะมีคำบรรยายหรือคำแนะนำสินค้าควบคุมไว้ ซึ่งตอนนี้แปลงเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่มีความจำเป็นต้องเป็นรูปเล่มหรือควรมีส่วนประกอบอย่างบทนำรวมทั้งสารบัญก็ได้ โดยที่นิยมมากมายในขณะนี้
ก็คือสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกแบบอย่างแผ่นพับ ฯลฯ
รูปแบบของแคตตาล็อกที่ถูกต้องหมายถึงงานเอกสารสื่อโฆษณาชนิดการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่คนจัดทำ
อยากเสนอ โดยจะมีรูปประกอบสินค้า ชื่อผลิตภัณฑ์รวมทั้งเนื้อหาของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจจะมีการแบ่งประเภทเป็นกลุ่ม
ประเภทผลิตภัณฑ์เพื่อจ่ายต่อการจำแนกแยกแยะ โดยจะมีการจัดทำสารบาญเพื่อให้ไม่ยุ่งยากต่อการค้นหา ทั้งนั้นเอกสารทั้งปวงจะถูก
ทำเป็นแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นระบุกระจ่างใน
ด้านรายละเอียด ต่างจากงานพิมพ์โปรโมทจำพวกอื่นๆที่คนจัดทำต้องการจะใส่เนื้อหาประเภทไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่สำหรับ
งานพิมพ์นี้แม้เมื่อคนเอ่ยถึงสิ่งพิมพ์แคตตาล็อก ในความนึกคิดทุกท่านจำเป็นจะต้องคิดภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าแล้วก็รายละเอียดทันที
แม้กระนั้นเนื่องแต่การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นต้นแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากรวมถึงมีความครึ้มและก็ขนาดใหญ่
ก็เลยไม่เหมาะในการใช้งานจำพวกการแจกจ่ายแบบทั่วไปตามท้องถนน ก็เลยทำให้มีการทำแผ่นพับที่เจาะจงชนิดเจาะจงเนื้อหา
สินค้า และก็ทำให้คนธรรมดาทั่วไปเรียกแผ่นพับพวกนี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างมากมายซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องตามแนวทางใช้งานควรเรียก
เป็นแผ่นพับมากกว่า สำหรับในการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำจำเป็นต้องจัดรูปแบบการเดินเรื่อง องค์ประกอบเนื้อหา พวก และจำนวน
หน้า รวมทั้งจำนวนเล่มที่จะต้องผลิต ด้วยเหตุว่าการแบบการพิมพ์ไม่ได้ต่างอะไรจากหนังสือเพราะเหตุว่าปริมาณเล่มจำเป็นต้องมากในระดับหนึ่งเพื่อให้
คุ้มค่ากับทุนสำหรับการทำแม่พิมพ์เยอะๆ
ขนาดของงานพิมพ์แคตตาล็อกโดยปกติควรจะใช้ขนาดราว A4 , A5 ,A6 หรือบางทีอาจจะใหญ่หรือเล็กมากยิ่งกว่าสัก
น้อย เพราะว่าถ้าหากขนาดที่แปลกเกินไปบางทีอาจจะต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มเติมอีก การเลือกใช้กระดาษก็ชอบเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ว่าที่จำต้องพินิจพิเคราะห์เรื่องความงามเป็นพิเศษโน่นคือ ปกของแคตตาล็อก โดยชอบใช้กระดาษที่มีความครึ้มกว่า
ด้านใน ยกตัวอย่างเช่น อาร์ตการ์ด เป็นต้น ดังนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตกแต่งพิเศษประเภท Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนสุดท้ายการเข้ารูปเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นกับความหนาของรูปเล่มอีกรอบหนึ่ง
เนื่องแต่พิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากก็เลยไม่นิยมใช้เป็นโฆษณาที่ใช้แจกมากเกินไปและไม่เหมาะกับ
กรุ๊ปลูกค้าทั่วไป จะต้องใช้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ความพึงพอใจจริงๆแล้วก็มีโอกาสบริโภคเท่านั้น ดังเช่นว่า กรุ๊ปลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็อาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรือบางทีอาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาถามถึงสินค้าของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านค้าท่านแล้ว เป็นต้นว่า ลูกค้ามาเดินชมรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จำเป็นต้องแจกแคตตาล็อกที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ประกอบการ
ตกลงใจเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ท้ายที่สุดการพิมพ์แคตตาล็อกต้องมีการวางเป้าหมายรวมทั้งนึกถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกคราวก่อนการจัดทำ